แบร๊ดลีย์โหดไม่เกรงใจ TAA เริ่มมืดแล้วนะฮะ
เคยตั้งใจจะเลิกอวยเจ้าหนูคอนอร์ แบร๊ดลีย์ และพยายามพูดถึงน้องให้มันเหมือนเป็นเรื่องปกติแต่ขอโทษทีครับเกมชนะ เชลซี 4-1 ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
วันที่ถล่มนอริชในเอฟเอ คัพฟอร์มการเล่นว่า Buzzing แล้วแต่เจอทีมระดับพรีเมียร์อย่าง “สิงห์บลู” มี 1 ประตูและอีก 2 แอสซิสต์คว้า MOM ไปอีกแล้ว
ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีเลยมั๊งครับที่ตำแหน่งแบ็คขวาของ TAA ถูกคุกคามหนักที่สุด
นับตั้งแต่ลงเล่นแทนเทรนต์ในเกมเอฟเอ คัพ กับอาร์เซนอลเมื่อวันที่ 7 มกราคม เจ้าหนูแบร๊ดลีย์ลงเล่นตัวจริง 5 นัดติด
ไม่มีเกมไหนเลยที่ไม่ดี ไม่สิต้องบอกว่าแม่งเล่นเด่นทุกเกม!!
รับมือแข้งรุ่นพี่แบบไม่มีกลัว ไล่ตั้งแต่มาร์ตินเนลลี่, วิลเลี่ยนเรื่อยมาจนเหยื่อล่าสุดเป็นสเตอร์ลิ่งและมูดรีค
ประตูแรกในสีเสื้อ “หงส์” ถือว่ามาไวจัด โจ โกเมซอยู่มาเกือบ 9 ปียังไม่มีซักเม็ด
โดยรวมจากวันแรกต้องช่วยลุ้นไม่ให้น้องตื่นสนามและออกลูกเหวอแต่ ณ ปัจจุบันยิ่งตื่นตาตื่นใจกับการเล่นที่กล้าได้กล้าเสีย,แท็คเกิ้ลแม่นยำ, อ่านทางบอลดีมาก, ความเข้าใจเกมแตกต่างจากทรงดาวรุ่งทั่วไปชัดเจน
นี่คือ “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” อย่างแท้จริง ถ้าโรเบิร์ตสันและชิมิคาสไม่เจ็บม่มีทางที่ JK จะดันขึ้นมาจากชุดเยาวชนและอาจจะถูกปล่อยยืมในที่สุด
โอกาสที่ได้มาคว้าไว้เต็ม 2 มือ เรียกว่าเป็นแข้งซีเนียร์เต็มตัว เด่นขนาดนี้ไม่มีทางลดตัวเองไปเล่นลีกรองหรือเยาวชนให้เสียเวลาอีกแล้วครับ
เดอะค็อปพูดถึง “แบ็คขวา” ตัวใหม่มาตลอดหลายปี ไม่คิดเหมือนกันว่าหวยจะมาออกคนใกล้ตัวแถมโนเนมอีกต่างหาก เซฟเงินไปไม่รู้กี่สิบล้าน
คำถามที่น่าสนใจตอนนี้คือถ้าน้องอายุมากกว่านี้จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาเล่นตำแหน่งไหนเพราะดูทรงแล้ว box to box สไตล์เดียวกับสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ที่ก็เริ่มต้นอาชีพด้วยตำแหน่งแบ็คขวาเหมือนกัน
ทั้งนี้อย่าลืมดูแลเรื่องสภาพร่างกายน้องมันด้วยครับ มีเคสของบายเซติชที่กระดูกยังอ่อนใช้งานโหลดเจ็บยาวโลกลืมไปคนนึงแล้ว
ครับเป็นอีกเกมที่ผมจำเป็นต้องเลียยันไข่ขอสรรเสริญผู้เล่นลิเวอร์พูลทุกคนที่ยังต่อยอดการเล่นได้น่าประทับใจเหมือนเดิม
Work rate ยังทะลุ 100 , วิ่งไล่บอลดุดัน ปิดพื้นที่และไม่ให้เวลาแข้ง “สิงห์” ได้ลืมตาอ้าปากสวนกลับใดๆ
พูดก็พูดนะครับ 2 นัดหลังที่ผ่านๆตาเรามาเนี่ยเหมือนนักเตะเล่นราวกับเยอร์เก้น คล็อปป์เพิ่งต่อสัญญาใหม่ 10 ปีมากกว่าจะลาออกหลังจบฤดูกาลด้วยซ้ำ!!
จุดเปลี่ยนของเกมไม่แตะถึงไม่ได้คือผมมองว่า “หงส์” โชคดีโคตรๆที่ไม่โดนจุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 6 หลัง VvD ดักเข่ากัลลาเกอร์
ตอน VAR เช็ก ดูภาพช้าครั้งแรกผมยอม “มอบตัว” แล้วด้วยครับ
“พี่ยักษ์” ไม่เล่นบอลแล้ว (เพราะกัลลาบอยแตะไปข้างหน้าแล้ว) ก่อนยื่นขาดักเข่า
เชื่อว่าถ้าคนเล่นบอลอย่างเราๆท่านๆไปนั่งในห้อง VAR 100 ทั้ง 100 ก็ต้องให้
ประเด็นนี้เองที่ทำให้แฟนหงส์กับสิงห์ตีกันใน SS และยิ่งดิโอโก้ โชต้าโดนทำฟาว์ลเสียจุดโทษยิ่งทำให้แฟนทีมเยือนมองว่ามึงให้ง่ายเกินไปไหม
อันนี้ผมแฟน “หงส์” อธิบายไปก็เหมือนเข้าข้าง คือถ้าวิ่งอยู่แล้วโดนย่ำเท้าก็ไม่ต่างอะไรกับการโดนตะปูตอกไม่ให้ไปไหนแต่ตัวไปข้างหน้าแล้วไงครับ ปุ่มก็ปุ่มเหล็ก โดนแบบนี้ตัวลอยทุกคนครับ เจ็บถึงทรวง
จะด้วยอะไรก็ตาม ยอมรับว่าพอล เทียร์นีย์เป่าเอียงๆผิดปกติมากเพราะแกนี่สร้างวีกรรมและมีข้อพิพาทกับ JK และลิเวอร์พูลมาไม่น้อยเลย
ผมเริ่มสังเกตตั้งแต่เบน ชิลเวลล์เจตนาพุ่งล้มเอาจุดโทษทั้งๆที่โกนาเต้ยื่นขาและชักกลับ
ตั้งแต่นั้นมาพอผู้เล่นคนอื่นโดนเตะจริงๆกลายเป็นผู้ตัดสินมองว่ากำลังหาทางลัดเอาประตู (เช่น VvD สะกิดเอ็นคุนคูจากด้านหลัง)
ครับในส่วนอื่นๆเชื่อว่าแฟน “สิงห์” เองก็ยอมรับว่าสู้ลิเวอร์พูลไม่ได้เลย ตัวแบกพัลเมอร์หรือราฮีมหายไปจากเกมอยู่นานสองนาน
วันนี้ถ้าจะมีอะไรที่เสียดายหนีไม่พ้นวันมหาวิปโยคของ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยิงชนเสาคานไป 4 หน
ยิงจุดโทษมรึงยังอุตสาห์แม่นเสา!!
ตอนแรกก็คิดเล่นๆแต่ตอนนี้ชักสงสัยแล้วว่ามันไปแทงพนันยิงชนเสาชนคานให้ครบ 50 ครั้งในหนึ่งฤดูกาลหรือเปล่าวะเนี่ย?
เรื่องของเรื่องคือ “หนูน” เล่นดีมากแบบโคตรดี ช่วงต้นเกมวิ่งสอดไปยิงสวยๆทั้งนั้น
ผมเชื่อว่าลูกโหม่งชนคานของนูนเญซในนาที 76 เกิน 80% คือ “หัวเราะ” เพราะผมลั่นบ้านครับขอบอก
สมกับฉายา “Agent of Chaos” หรือในไทยเรียก “กาชาปอง” เป็นคนที่เก่งนะแต่คาดเดายากจริงๆ
ยังดีที่นูนเญซไม่ได้กลับบ้านมือเปล่ายังได้แอสซิสต์ให้หลุยส์ ดิอาซ ในนาที 79 พอได้ความมั่นใจความดีความชอบไปบ้างนิดหน่อย
ในเมื่อแต่งงานพาเข้าบ้านเราแล้วแฟนบอลต้องตามเอาใจช่วย (และรอหัวเราะ) กันต่อไปแหละครับ
ครับเป็นเกมที่ “รับจบ” เนียนกริบของแข้งลิเวอร์พูลอีกเกมที่ผมดูแล้วรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น
เล่นดีเล่นเพลินจนเราเกือบลืมไปแล้วว่าเฮ้ยที่เคยหวั่นๆว่าไม่มีโม ซาลาห์แล้วทีมจะดิ่ง
ตรงกันข้ามชนะ 5 จาก 6 เกมนับตั้งแต่ซาลาห์ไปแอฟค่อนจนตอนนี้กลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บ
ตอนนี้ทุกๆชัยชนะมีค่ามากครับเนื่องจากแมนฯซิตี้กำลังกดอัลติชนะรวด 8 นัดตามหลัง 5 แต้มและมีอีกเกมในมือ ภัยเงียบที่แอบคุกคามเข้ามาเรื่อยๆ
สิ่งที่เป๊ปรอคอยมานานคือการไปเยือนอาร์เซนอลของลิเวอร์พูลในวันอาทิตย์นี้มาถึงแล้ว
แม้ยังเหลืออีกร่วม 15-16 เกมแต่ผลแพ้ชนะในศึกบิ๊กแมทช์จะเปลี่ยนหน้าตาการไล่ล่าแชมป์ไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
ดาร์วิน นูนเญซกลายเป็นนักเตะคนแรก (นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติในฤดูกาล 2003-04) ที่ยิงชนเสา/คาน 4 หนในพรีเมียร์ลีกเกมเดียว
นอกจากนี้ “หนูน” ยิงชนเสา/คาน 7 ครั้งในพรีเมียรืลีกฤดูกาลนี้ มากกว่านักเตะคนอื่นๆถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามอดีตหอกเบนฟิก้าทำไปแล้ว 11 แอสซิสต์ในทุกรายการให้ลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้มีเพียง ซาก้า (12) ที่ทำได้มากกว่าแข้งกาชาปอง
ในวัย 20 ปีกับอีก 206 วัน, คอเนอร์ แบร๊ดลีย์เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของลิเวอร์พูลที่แอสซิสต์ 2 ประตูในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ TAA เคยทำไว้ในเกมพบวัตฟอร์ดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 (20 ปี 143 วัน)
เกมนี้ลิเวอร์พูลมีโอกาสส่องมากถึง 28 ครั้งทำให้พวกเขาทำสถิติร่วมเหนือทีมอื่นๆ (นับตั้งแต่ 2003-04) ในการเจอกับ เชลซี และการยิงเข้ากรอบ 13 หนทำให้ “สิงห์” มีตัวเลขถูกคู่แข่งยิง on target มากที่สุดเช่นกัน
นี่เป็นชัยชนะเหนือเชลซีด้วยสกอร์ห่างมากที่สุดนับตั้งแต่พฤษภาคม 2012 ซึ่งลิเวอร์พูลถล่มด้วยสกอร์เดียวกัน 4-1 ภายใต้การคุมทีมของ “คิงเคนนี่” เคนนี่ ดัลกลิช
เยอร์เก้น คล็อปป์เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 7 ที่ชนะ 200 เกมในพรีเมียร์ลีกโดยมีเพียงเป๊ป กวาดิโอล่าเท่านั้นที่ทำได้เร็วกว่า
นับตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาลก่อนไม่มีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกที่แพ้เกมนอกบ้านในทุกรายการมากไปกว่าเชลซีอีกแล้วและตอนนี้ “สิงห์” แพ้นอกบ้าน 6 จาก 7 เกมเข้าให้แล้ว
Special stat
คอนอร์ แบร๊ดลีย์ vs เชลซ
จ่ายบอลแม่นยำ 81%
บอลยาว 3/5
สร้างโอกาส 4
แอสซิสต์ 2
ยิงเข้ากรอบ 1/1
ประตู 1
ดวลตัวต่อตัวชนะ 7/12
เข้าสกัดชนะ 3/3
ที่มา: soccersuck
