อย่าเพิ่งรีบไล่! “อิชิอิ” ว่าที่แม่ทัพ “ช้างศึก” กับโปรแกรมเดือดปี 2024
คงไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ (ว่าที่)กุนซือ ทีมชาติไทย ที่เจ้าตัวจะเข้ามาทำงานแทนที่ มาโน่ โพลกิ้ง แต่ถึงกระนั้นต้องรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ
เรื่องรายละเอียดเร็วๆ นี้คงได้ทราบ เพราะ(ว่าที่)นายกสมาคมฟุตบอลฯ อย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ปัจจุบันทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทย เป็นผู้ประสาน 10 ทิศ ปิดดีลเฮดโค้ชเลือดปลาดิบเข้ามาสานงานทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2024
การเปลี่ยนแปลงในปีหน้าของวงการฟุตบอลไทย น่าจะเป็นการปรับแบบ “ยกชุด” ตั้งแต่ฝ่ายบริหารเพราะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยเตรียมส่งไม้ต่อให้หัวเรือคนใหม่
ด้าน มาโน่ ทำได้ดีที่สุดกับผลงาน 2 แชมป์
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020
- เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022
แต่นั้นก็ยังไม่ดีพอ แม้ผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2 เกมแรก จะเก็บไป 3 แต้ม รั้งอันดับที่ 2 แต่เกมที่พ่ายคาบ้านให้จีน ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายกับอนาคตกุนซือทีมชาติไทย ที่หยุดอยู่เพียงแค่ 2 ปี 2 เดือน
- 37 นัด
- ชนะ 21
- เสมอ 8 นัด
- แพ้ 8 นัด
- ยิง 69 ประตู
- เสีย 37 ลูก
เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวของกุนซือคนเก่า จะกลายเป็นภาพสะท้อนผลงานของ มาซาทาดะ อิชิอิ ว่าที่กุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ เพราะ “แรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน” แฟนบอลไทยส่วนใหญ่กำลังใจฟู กับโค้ชระดับเทพ ที่ฝากผลงานเอาไว้มากมายทั้งระดับเจลีก รวมถึงไทยลีก
- แชมป์เจลีก
- แชมป์เอ็มเพอเรอร์ คัพ
- แชมป์เจลีก คัพ
- แชมป์เจแปนนิส ซูเปอร์คัพ
นอกจากนี้ยังเคยคว้าผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมเจลีก ลีกที่ถูกยกว่าแข็งแกร่งระดับท็อปของเอเชีย
เท่านี้ก็เพียงพอทำให้เขาเป็นตำนานลีกแดนปลาดิบ แต่เหลือเชื่อที่เจ้าตัวตัดสินใจเข้ามารับงานที่ไทยลีก กับ สมุทรปราการ ซิตี้ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- แชมป์ไทยลีก
- แชมป์เอฟเอ คัพ
- แชมป์ลีก คัพ
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมไทยลีก
ก่อนจะสร้างชื่อกลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่พาทีมคว้า 3 แชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน นั่นจึงเป็นที่มาของการเรียกร้องให้กุนซือรายนี้เข้ามาทำหน้าที่เป็นกุนซือคนใหม่ โดยเคยเกือบจะเกิดขึ้นแล้วก่อนศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่สุดท้ายเป็น มาโน่ ที่ได้ทำทีมต่อไป
ทว่า ไทย กับ อิชิอิ ก็โคจรมาเจอกันอยู่ดี แต่จะเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2024 กับโปรแกรมเดือดๆที่ต้องบอกเลยว่า เริ่มเป็นกังวลอนาคตของกุนซือรายนี้ แม้จะยังไม่ได้ทำหน้าที่ แต่กลัวแรงกดดันจากกุนซือคีย์บอร์ด อาจจะอดทนได้ไม่มากพอ หากเห็นชาติบ้านเกิดพ่ายแพ้
โปรแกรม 8 เกมแรกของ อิชิอิ กับ ทีมชาติไทย
- ทีมชาติญี่ปุ่น (18 ของโลก) : อุ่นเครื่อง
- ทีมชาติคีร์กิซสถาน (97 ของโลก) : เอเชี่ยนคัพ
- ทีมชาติโอมาน (72 ของโลก) : เอเชี่ยนคัพ
- ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย (57 ของโลก) : เอเชี่ยนคัพ
- ทีมชาติเกาหลีใต้ (24 ของโลก) : ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
- ทีมชาติเกาหลีใต้ (24 ของโลก) : ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
- ทีมชาติจีน (79 ของโลก) : ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
- ทีมชาติสิงคโปร์ (155 ของโลก) : ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
***ปล. ข้อมูล ณ วันที่ 30/11/66***
เรียกได้ว่า 7 เกมแรกที่ต้อนรับ อิชิอิ โปรแกรมของไทย ต้องเจอกับทีมระดับท็อป 100 ของเอเชียทั้งสิ้น พูดง่ายๆคือเราเป็นรองคู่ต่อสู้ทุกนัด กว่าจะเจอทีมที่ศักยภาพต่ำกว่าอย่าง สิงคโปร์ ต้องรอถึงนัดที่ 8 กลางปีหน้าเลยทีเดียว
เมื่อเห็นเช่นนี้เราคงคาดหวังกับ อิชิอิ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมได้ แต่คงเร็วไปนักหากเราจะใช้ 7-8 เกมแรก ตัดสินอนาคตของชายคนนี้…
ที่มา: ballthai.com
