ทูเคิ่ลชี้ ‘กรีลิช’ ต้องลงเล่นต่อเนื่องหากหวังคืนทีมชาติ
โธมัส ทูเคิ่ล เปิดเผยว่าเขาชื่นชอบทุกอย่างเกี่ยวกับ แจ็ค กรีลิช และเชื่อว่าดาวเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีทั้งคาแร็กเตอร์และคุณภาพที่จะเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติอังกฤษยุคใหม่ได้
กรีลิช เป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกมองว่าเป็นการตัดชื่อที่เซอร์ไพรส์จากทีมชาติอังกฤษชุดแรกของทูเคิ่ล ซึ่งกุนซือชาวเยอรมันประกาศรายชื่อเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกกับ แอลเบเนีย และ ลัตเวีย ในเดือนนี้
ทูเคิ่ล เผยว่าเขาได้พูดคุยกับ กรีลิช ก่อนประกาศรายชื่อ โดยดาวเตะวัย 29 ปี ยอมรับว่าเขา “ไม่ใช่นักเตะประเภทที่เล่น ๆ หยุด ๆ” และกำลังเจอกับปัญหาบทบาทตัวสำรองในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่ง ทูเคิ่ล ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ “100%”
ฤดูกาลนี้ กรีลิช ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้ แมนฯ ซิตี้ เพียง 6 นัด และเกมที่เขาเล่นครบ 90 นาที 3 นัดล่าสุดกลับเป็นศึกเอฟเอ คัพ เจอกับ ซัลฟอร์ด ซิตี้, เลย์ตัน โอเรียนท์ และ พลีมัธ
แม้ กวาร์ดิโอล่า จะออกมาปกป้อง กรีลิช เกี่ยวกับข่าวที่เขาไปเที่ยวกลางคืนที่ซันเดอร์แลนด์ แต่ ทูเคิ่ล ยอมรับว่า “มันไม่ใช่เรื่องดี” ที่แข้งรายนี้มักตกเป็นข่าวนอกสนามบ่อย ๆ
“ผมรักแจ็ค! ถ้าจะให้พาดหัวข่าวก็เขียนเลยว่า ผมรักแจ็ค! ผมชอบทุกอย่างเกี่ยวกับเขา ทั้งคาแร็กเตอร์และคุณภาพของเขา” ทูเคิ่ล กล่าว
“เขาเป็นนักเตะที่กล้าหาญ สามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดี เขาไม่กลัวเสียงโห่จากแฟนบอลที่เบร์นาเบวเวลาครองบอล มันไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวเลย หรือถ้าจะมีผล ก็คงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น”
“ดังนั้นเขาควรเป็นตัวเลือกในทีมชาติและสามารถสร้างอิมแพ็คให้ทีมได้ไหม? แน่นอน 100%”
“แต่ช่วงหลัง ๆ เขาไม่มีจังหวะการเล่นที่ต่อเนื่องเลย และเขาเองก็เห็นด้วยกับผม 100% เขาบอกผมว่า ‘โค้ชครับ ผมไม่ใช่นักเตะแบบที่เล่น ๆ หยุด ๆ ได้ มันยากมากที่ผมจะสร้างอิมแพ็คต่อเกมจากม้านั่งสำรอง แล้วจากนั้นก็ต้องกลับไปนั่งอีก แล้วสองสัปดาห์ต่อมาถึงได้ลงตัวจริงอีกครั้ง’ “
“ผมไม่ได้ตำหนิใครนะ แต่นี่คือคาแร็กเตอร์ของแจ็ค ยิ่งเขาได้ลงเล่นมากเท่าไหร่ เขาจะยิ่งดีขึ้น และเมื่อเขาได้เล่นต่อเนื่อง เขาจะกลายเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ และเขาก็มีคาแร็กเตอร์ที่สามารถเป็นตัวเชื่อมของทีมได้ด้วย”
“แต่เรื่องนี้ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบนอกสนาม และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่เขามีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อย ๆ”
“แต่มันอาจจะไม่ใช่ความผิดของเขาเพียงคนเดียว สื่อเองก็มีส่วนเหมือนกัน ทุกวันนี้ทุกคนมีกล้องในมือถือ นักเตะเหล่านี้เป็นคนดังและเป็นบุคคลสาธารณะ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้”
“มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องการให้เกิดขึ้น แต่ผมอยากบอกว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่ผมไม่เลือกเขาติดทีมชาติ มันเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่นล้วน ๆ ในตำแหน่งของเขา แอนโธนี่ กอร์ดอน มีจังหวะเกมที่ต่อเนื่องกว่า ลงเล่นมากกว่า มีความเข้มข้นมากกว่า และเราก็ได้พูดถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นสองตัวเลือกที่ถูกเลือกก่อนเขา”