การบ้านของ โซลชา ที่ต้องทำ แม้ประเดิมเกมแรกสวยงาม

การบ้านของ โซลชา ที่ต้องทำ แม้ประเดิมเกมแรกสวยงาม

คอลัมนีสต์

ประเดิมเปิดซิงเกมแรกได้อย่างเฟี้ยวฟ้าวสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเดินหน้าฆ่า ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปแบบราบคาบ 5-1 ถือว่าเปิดตัวซีซั่นใหม่ได้อย่างร้อนแรงเลยทีเดียว

แต่ทว่าในอีกมุมนี่เป็นเพียงก้าวแรกจาก 38 นัด ฉะนั้นระหว่างทางต่อจากนี้พวกเขายังคงมีเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขจากฤดูกาลที่แล้วอยู่เช่นกัน

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปสอดส่องการบ้านข้อโตของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ว่ามีประเด็นไหนบ้างที่เขายังคงปรับปรุงแก้ไข เพื่อโอกาสในการพุ่งชนความสำเร็จในรูปแบบที่แฟนบอลปรารถนา

อย่าพลาดง่ายๆ

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่งจนสามารถเข้าป้ายจบในอันดับที่ 2 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการโกยแต้มไปได้มากถึง 74 คะแนน แถมในช่วงระหว่างเส้นทางพวกเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมพอควรอย่างไม่พ่ายครั้งติดต่อกัน 12 นัด และ 13 นัด ซึ่งทั้ง 2 ช่วงคือต้องยอมรับ และยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับนายใหญ่ชาวนอร์เวย์

ซึ่งนั้นคือเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะตัวเลขดังกล่าวแถมทำได้ถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันมันไม่ง่ายจริงๆ ที่จะรังสรรค์ผลงานแบบนั้นออกมา แต่ทว่ามันก็พอจะมีจุดบอดอื่นๆ และความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน และสิ่งนี้คือประเด็นสำคัญที่อาจทำให้โทรฟี่แชมป์หลุดมือ นั้นก็คือการทำแต้มหล่นแบบไม่น่าเสีย

ซั่นซีที่แล้ว ยูไนเต็ด มีคะแนนน้อยกว่าแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ 12 คะแนน ทั้งที่จำนวนเกมที่พลาดแพ้เท่ากัน แต่ “ปีศาจแดง” มีความสม่ำเสมอที่ไม่เท่ากับ “เรือใบสีฟ้า” มีสะดุดเสมอบ่อยครั้งเกินไป

ถ้าจะพอยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างเกมที่เปิดบ้านเสมอ เอฟเวอร์ตัน 3-3 ทั้งที่เวลาจะหมดอยู่แล้วก็มาเสียประตูช่วงนาที 90+5 หรือ เกมที่บุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 ทั้งที่รูปแบบครองบอลมากกว่า หรือสร้างโอกาสได้มากกว่า แต่ทว่าไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้

ฉะนั้นแล้วถ้า โซลชา สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขจุดนี้ได้จากแพ้เป็นเสมอ หรือจากเสมอเป็นชนะ คะแนนพวกเขาจะเพิ่มขึ้นจากเกมเหล่านี้ และพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้มากกว่าเดิมแน่นอน

คอลัมนีสต์

การยืนระยะ

ประเด็นนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อด้านบนสืบเนื่องจากการทำคะแนนหกเรี่ยราดมากจนเกินไปทำให้ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ ฉะนั้นแล้วในเรื่องของการยืนระยะไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ตาม หรือผู้นำ มันก็ย่อมไม่ต่างกัน เพราะถ้าพลาดขึ้นมามันสามารถเป็นตัวตัดสินชี้วัดความสำเร็จได้เลย

จริงอยู่ถ้าอ้างอิงจากฤดูกาลที่แล้ว “ปีศาจแดง” มีมาตรฐาน และตั้งค่าพื้นฐานผลงานของพวกเขาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว บวกกับการมีประสบการณ์ที่มากขึ้นของนักเตะโดยเฉพาะเหล่าแข้งที่พึ่งก้าวขึ้นมาเล่นในระดับสูงอย่าง เมสัน กรีนวู้ด, อารอน วาน-บิสซาก้า, ดาเนียล เจมส์ หรือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะสั่งสอนพวกเขาได้มากเหลือเกิน

ต่อมาในตัวของกุนซือชื่อของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถ้านำไปเปรียบเทียบกับเหล่าคู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรงต้องยอมรับว่าเขาเป็นรองอยู่หลายช่วงตัวทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือ โธมัส ทูเคิ่ล แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่นายใหญ่ชาวนอร์เวย์เริ่มแสดงออกมาให้เห็นมากแล้วคือเรื่องของการแก้เกม และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อพาทีมคว้าชัยชนะ การเปลี่ยนตัว, ปรับแท็คติก หรือ การโกงความตายจากความพ่ายแพ้

ซึ่งจุดเหล่านี้ถ้า โซลชา สามารถนำมาต่อยอดกับนักเตะ และผสมผสานให้เข้าหากันได้เชื่อว่ามันจะเกิดเป็นการที่ช่วยให้ทีมยกประสิทธิภาพ และยืนระยะได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ จะได้ไม่เป๋หลุดเสมอ หรือแพ้ จนลุ้นวงโคจรไปง่ายๆ

และถ้าในกรณีที่เป็นผู้นำฟุตบอลลีกแบบนี้มันต้องใช้ความเก๋าเข้าสู้ แม้ โซลชา จะเทียบไม่ได้กับรายชื่อนายใหญ่ที่ที่กล่าวมาข้างต้น แต่ทว่าถ้าพกพาความมั่นใจ และปรับปรุงตัวเองไม่คิดมากจนเกินไป เชื่อว่าพวกเขาจะยกระดับมาตรฐานผลงานไปอีกขั้นได้แน่

ลดช่องว่างระหว่างตัวจริง-สำรอง

นี่คือเรื่องน่าห่วงมากพอสมควรในเรื่องของช่องว่างระหว่างตัวจริง กับตัวสำรอง เพราะถ้าวัดจากมาตรฐานเหล่านักเตะ 11 คนแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พอจะขาดการณ์กันได้นั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพที่สูงมากพอควรไล่ตั้งแต่แนวรับอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หรือ ลุค ชอว์ ขยับไปที่เหล่าแผนกเกมรุกอย่าง ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นานเดส, จาดอน ซานโช่ หรือ เอดินสัน คาวานี่

กลุ่มนักเตะเหล่านี้แสดงออกมาให้เห็นแล้วว่าสามารถหวังพึ่งพา ในการเข็นทีมก้าวไปข้างหน้า และได้ผลการแข่งขันยอดเยี่ยมได้อยู่เสมอ แต่ทว่ายามที่ใครสักคนได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ตัวแทนจากม้านั่งสำรองจะสามารถทดแทนการขาดหายไปของพวกเขาได้มากขนาดไหน ?

ยกตัวอย่างย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายซีซั่นก่อน แม็คไกวร์บาดเจ็บจ้องพักยาว แน่นอนปัญหาที่กัปตันรายนี้ทิ้งไว้นั้นมันยากมากที่จะหาคนมาอุดรอยรั่ว แม้ในฤดูกาลนี้จะได้ ราฟาเอล วาราน เข้ามา แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก มันแทบไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่า ลินเดเลิฟ จะผีเข้าฟอร์มดีเมื่อเกมที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด

หรือแดนกลางในกรณีที่ ป็อกบา หรือ บรูโน่ แฟร์นานเดส คนใดคนหนึ่งขาดหายไปมันคงจะเป็นแผลใหญ่มากพอควรที่จะหาคนมาแทนที่ แม้ที่ม้านั่งสำรองจะมีตัวเลือกอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค, เจสซี่ ลินการ์ด หรือ ฆวน มาต้า เป็นตัวเลือกก็ตาม

ฉะนั้นแล้วนี่คือปัญหาช่องว่างที่ โซลชา ต้องรีบแก้ไข และทำการบ้านอย่างจงหนักเพราะเราไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แน่นอน

ด้วยกลุ่มนักเตะทั้ง 2 ชุด มันยากนักที่จะทำให้ผสานกันจนปิดแบบแนบสนิท แต่อย่างน้อยช่องว่างตรงนี้ควรที่จะลดลง และให้มันเกิดเป็นปัญหาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ผลงานกับทีมลุ้นแชมป์

มองย้อนไปเมื่อซีซั่น 2020-21 แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บคะแนนได้จากทีมบิ๊กซิกซ์ที่ประกอบไปด้วย แมนฯ ซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, เลสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ได้เพียง 12 คะแนน เท่านั้น จากการพบกันเหย้า-เยือน ที่มีแต้มให้โกยเข้ากระเป๋าถึง 36 คะแนน

ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาหนักไปทางเสมอกับแพ้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนชัยชนะมีเพียงเกมที่ออกไปเยือน สเปอร์ส และ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่สามารถคว้าชัยชนะออกมาได้

แน่นอนการพบเจอกับทีมในระดับที่ใกล้เคียงกัน และเบียดทั้งเรื่องลุ้นแชมป์ หรือโควต้าต่างๆ การที่คุณเก็บชัยชนะได้มันเหมือนเป็นการได้ 6 คะแนน จากการที่คุณได้ 3 แต่คู่แข่งหยุดอยู่กับที่ไม่ได้แต้มขยับไหน

และการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าให้กับทีมในระดับเดียวกันมากขนาดนี้มันเลยทำให้พวกเขาไม่อาจก้าวข้ามได้เสียที แม้กับทีมในระดับที่เล็กกว่าจะโกยคะแนนได้มหาศาลก็ตาม แต่ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จมันต้องควบคู่กันทุกอย่างต้องชนะให้ได้ไม่ว่าคู่แข่งจะมีสถานภาพเป็นแบบไหนก็ตาม

ซึ่งถ้า โซลชา และทีมงานสต๊าฟฟ์สมารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ เก็บชัยชนะให้ได้มากยิ่งขึ้นทีมก็จะโกยคะแนนเข้ากระเป๋าได้อีกมากโข เผลอๆ อาจเข้าป้ายเป็นแชมป์ลีกเลยก็อาจจะเป็นไปได้

แสดงความคิดเห็น

• เรื่องน่าสนใจ •